ระบบ GPS (Global Positioning System) เป็นระบบที่ใช้ในการกำหนดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์บนโลกด้วยความแม่นยำ โดยใช้สัญญาณจากดาวเทียม
หลักการทํางานของระบบ GPS
ระบบ GPSติดรถ (Global Positioning System) เป็นระบบที่ใช้ในการกำหนดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์บนโลกด้วยความแม่นยำ โดยใช้สัญญาณจากดาวเทียม โดยระบบ GPSติดรถยนต์ ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก ดังนี้:
1. ดาวเทียม: ระบบ GPS มีกลุ่มของดาวเทียมที่วางอยู่รอบโลก เพื่อส่งสัญญาณติดตามตำแหน่งไปยังผู้ใช้งาน ปัจจุบันมีดาวเทียม GPS ทั้งหมด 24 ดวง.
2. ตัวรับสัญญาณ: ผู้ใช้งานจะใช้อุปกรณ์รับสัญญาณ GPS ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่นสมาร์ทโฟน รถยนต์ หรืออุปกรณ์พกพา เพื่อรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS.
3. กระบวนการส่งสัญญาณ: ดาวเทียม GPS จะส่งสัญญาณไปยังตัวรับสัญญาณ โดยสัญญาณดังกล่าวประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งปัจจุบันของดาวเทียม และข้อมูลเวลา.
4. กระบวนการตำแหน่ง: เมื่อตัวรับสัญญาณได้รับสัญญาณจากดาวเทียม GPS มากกว่าสามดวง จะสามารถหาตำแหน่งปัจจุบันได้โดยใช้หลักการทางคณิตศาสตร์ โดยนำเอาข้อมูลเวลาที่ได้รับมาจากดาวเทียม GPS และข้อมูลเวลาในตัวรับสัญญาณมาคำนวณหาตำแหน่ง.
5. การแสดงผล: ผลลัพธ์ของการตำแหน่งที่ได้จากระบบ GPS สามารถแสดงผลออกมาในรูปแบบทางภูมิศาสตร์ เช่นละติจูดและลองจิจูด หรือในรูปแบบแผนที่บนหน้าจออุปกรณ์
ระบบ GPS ใช้ในหลากหลายงานและอุตสาหกรรม เช่นการนำทางทางถนน การนำทางเรือ การบิน การทำงานในภูมิสถานที่ร้านค้า และยังมีการนำมาประยุกต์ใช้ในการค้นหาและสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการนำมาใช้ในการกำหนดตำแหน่งในอุตสาหกรรมการทำธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมาย
สัญญาณจากดาวเทียมในระบบ GPS
สัญญาณจากดาวเทียมในระบบ GPS เป็นสัญญาณคลื่นวิทยุที่ถูกส่งออกมาจากดาวเทียม GPS เพื่อให้ตัวรับสัญญาณรับได้และนำมาใช้ในการกำหนดตำแหน่ง. สัญญาณ GPS ประกอบด้วยสองส่วนสำคัญ ดังนี้:
1. L1 Signal: เป็นสัญญาณหลักที่ส่งออกมาจากดาวเทียม GPS โดยมีความถี่ประมาณ 1575.42 MHz (แม็กะเฮิร์ตซ์). สัญญาณ L1 ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่ง, เวลา, และข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการกำหนดตำแหน่ง.
2. L2 Signal: เป็นสัญญาณเสริมที่มีความถี่ประมาณ 1227.60 MHz (แม็กะเฮิร์ตซ์). สัญญาณ L2 ใช้ในการปรับปรุงความแม่นยำและประสิทธิภาพของการรับสัญญาณ GPS โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่มีสภาพแวดล้อมที่แออัดหรือมีการขัดขวางสัญญาณ นอกจากนี้ยังใช้ในการกำหนดค่าหรือการปรับเร็วในการกระจายสัญญาณ GPS เพื่อลดผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น สภาวะอากาศแย่หรือการรบกวนสัญญาณ.
สองสัญญาณนี้จะถูกส่งออกจากดาวเทียม GPS และตัวรับสัญญาณจะรับสัญญาณที่มาจากหลายๆ ดาวเทียมพร้อมกันเพื่อนำมาคำนวณตำแหน่งปัจจุบันของตัวรับสัญญาณ โดยรับสัญญาณจากดาวเทียมอย่างน้อยสามดวงในเวลาเดียวกันเพื่อทำให้เกิดความแม่นยำในการกำหนดตำแหน่ง.
ตัวรับสัญญาณ GPS
ตัวรับสัญญาณในระบบ GPS จะรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS โดยอาศัยเสาอากาศหรืออุปกรณ์รับสัญญาณที่ทำหน้าที่เป็นแท่นรับสัญญาณ (receiver) สามารถรับสัญญาณที่มาจากดาวเทียม GPS ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ตัวรับสัญญาณสามารถรับสัญญาณ GPS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีเงื่อนไขต่อไปนี้:
1. มีตำแหน่งที่มีมุมมองต่อดาวเทียม: ตัวรับสัญญาณจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่มีมุมมองที่ชัดเจนต่อดาวเทียม GPS อย่างน้อย 4 ดวงขึ้นไป เพื่อให้สามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมตั้งแต่หลายดวงและคำนวณตำแหน่งได้.
2. ไม่มีข้อกังวลเรื่องการกีดขวางสัญญาณ: รับสัญญาณจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างตัวรับสัญญาณและดาวเทียม GPS เช่น อาคารสูง ต้นไม้หรืออุปกรณ์อื่นที่มีความสูง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้สัญญาณ GPS ถูกกั้นหรือมีสัญญาณรบกวนที่มากขึ้น.
3. รับสัญญาณจากดาวเทียมที่แน่นอน: ตัวรับสัญญาณจะต้องรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS อย่างแน่นอนและได้รับสัญญาณที่มีคุณภาพสูงเพื่อให้สามารถทำการคำนวณตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ.
เมื่อตัวรับสัญญาณได้รับสัญญาณ GPS มาเรียบร้อยแล้ว จะนำสัญญาณเหล่านี้ไปทำการคำนวณเพื่อกำหนดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของตัวรับสัญญาณ โดยใช้หลักการทางคณิตศาสตร์ที่เรียกว่าตำแหน่งและเวลา (Positioning and Timing) ในระบบ GPS.
ระบบ GPS ในงานอุตสาหกรรม
ระบบ GPSติดรถยนต์ เล่นบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และเวลาได้อย่างแม่นยำ นี่คือการใช้ระบบ GPS ในงานอุตสาหกรรมบางส่วน:
1. การขนส่งและโลจิสติกส์: ระบบ GPS ช่วยในการติดตามตำแหน่งของยานพาหนะ หรือรถบรรทุก เพื่อให้สามารถติดตามการเดินทางและจัดการเส้นทางการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยในการจัดการและวางแผนการจัดส่งให้เป็นไปตามเวลาและเส้นทางที่เหมาะสม.
2. การทำงานในอุตสาหกรรมเกษตร: ในการเกษตรสมัยใหม่ ระบบ GPS สามารถใช้ในการควบคุมและติดตามการทำงานในสนาม ตั้งแต่การวางแผนการปลูกพืช การให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสม การฉีดพ่นสารเคมี หรือการเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อให้การเกษตรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดการสูญเสีย.
3. การสำรวจและดำเนินงานในอุตสาหกรรมแรงงาน: ในอุตสาหกรรมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติหรืออุตสาหกรรมก่อสร้าง ระบบ GPS ช่วยในการกำหนดตำแหน่งของจุดสำคัญ เช่น การสำรวจผืนป่าหรือการวางแผนสถาปัตยกรรม นอกจากนี้ยังช่วยในการติดตามและควบคุมการทำงานในสถานที่ต่างๆ อีกด้วย.
4. การทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว: ระบบ GPS มีบทบาทสำคัญในการนำทางผู้ใช้งานในสถานที่ท่องเที่ยว เช่น การนำทางในสนามกอล์ฟ การท่องเที่ยวในสถานที่ทางป่า หรือการนำทางในท้องถิ่นที่ไม่คุ้นเคย.
5. การทำงานในอุตสาหกรรมการบิน: ในอุตสาหกรรมการบิน ระบบ GPS ช่วยในการนำทางเครื่องบินในอากาศ ติดตามตำแหน่งของเครื่องบิน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางบินและเวลาเดินทาง เพื่อให้การบินเป็นไปได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ.
การใช้ระบบ GPS ในงานอุตสาหกรรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดการสูญเสียเวลาและทรัพยากร และช่วยให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- บริษัท ดีดี เจเนอรัลคอร์ปอเรชั่น จำกัด
- บริการจีพีเอสจัดส่งทั่วประเทศไทย ใช้แฟลชจัดส่งรวดเร็ว 3-5 วัน ถึงมือลูกค้า
- สั่งซื้อไลน์ไอดี : @pzz8446c
- โทร : 080-2956052 ,095-5422171